Home
เครื่องพิมพ์ Roland
เครื่องPrint&Cut
เครื่องตัดสติกเกอร์
เครื่องพิมพ์ UV
เครื่องแกะสลักโลหะ
ติดต่อเรา
Webboard
UV Flatbed Printer
UV Flatbed Printer Roland
3M Signage Solutions
3M Signage Solutions
Roland Tip&Trick
Manual CI ป้องกันหัวพิมพ์เสื่อม BN-20
Manual CI ป้องกันหัวพิมพ์เสื่อม Roland VS
ทริคการดูปริมาณหมึกด้วย Job Log ใน versaworks
หัวพิมพ์แบบแยก FlexFire Printhead
วิธีการติดตั้ง Roland CutStudio Plug-inสำหรับเครื่องMacintosh OSX
การบำรุงรักษาเครื่องพิมพ์ในช่วงวันหยุดยาว
การบำรุงรักษาเครื่องระบบหมึก truevis
หมั่นสังเกตุและคอยบำรุงรักษาเครื่องตัดสติ๊กเกอร์
ข้อควรปฎิบัติ การทำความสะอาดหัวพิมพ์ SG2 VG2 Series
วิธีทํา Crop Mark Adjust Auto Roland GS-24
ไกด์คู่มือ แนะนำการคลีนนิ่ง เครื่องพิมพ์ Roland VG3 640
ไกด์คู่มือ แนะนำการคลีนนิ่ง เครื่องพิมพ์ Roland VF2 640
ไกด์คู่มือ แนะนำการคลีนนิ่ง เครื่องพิมพ์ Roland UV LEF2
Adding the Roland Color Palette to CorelDraw
วิธีการรีด FLEX
วิธีทำ Crop Mark เครื่องตัดสติกเกอร์ GX-24
การตั้งค่า Alignment Crop-mark ของเครื่องตัดฯ MIMAKI
การตัดสติกเกอร์ SV-8/12/15 ด้วย CorelDraw10,11,12
การตัดสติกเกอร์ GX-24 ด้วย CorelDraw10,11,12
การตัดสติกเกอร์ SV-8/12/15 ด้วย Illustrator
การตัดสติกเกอร์ GX-24 ด้วย Illustrator
คู่มือทำไดคัทบน SV-12
เครื่องพิมพ์ Roland มือ 2
พิมพ์สี Metallic ทำอย่างไร
ข้อควรระวังการใช้เครื่ิองพิมพ์ UV
การตัดสติ๊กเกอร์ในงานพิมพ์ที่มี Crop Marks
ตัดสติ๊กเกอร์งานพิมพ์ Crop Marks สำหรับโปรแกรม CorelDRAW
ทริค ปัญหา VS-640/ 540 /420 /300 แก้ไขด้วยตนเอง
วิธีการใช้งาน GS-24
วิธีการตัดเครื่องตัด GS-24
วิธีการทำCrop Mark เครื่อง GS-24 สำหรับ CutStudio
วิธีการทำCrop Mark เครื่อง GS-24 สำหรับ Illustrator
การดูแลรักษาละการเปลี่ยนใบมีด เครื่อง GS-24
เกี่ยวกับ MBA
ที่ตั้ง MBA
แผนที่ MBA
ขอใบเสนอราคาเครื่องพิมพ์และเครื่องตัด
ตัวอย่างงานพิมพ์
เครื่องอบผ้า
โปรโมชั่น MBA
โปรโมชั่น Hitachi Projector
โปรโมชั่น Roland VS-540i
Promotion Trade-in Roland
โปรโมชั่นเครื่องตัดสติกเกอร์
โปรโมชั่นเครื่องพิมพ์โรแลนด์
โปรโมชั่นวัสดุสิ่งพิมพ์ และหัวพิมพ์ Largeformat
โปรโมชั่น Led moving sign
โปรโมชั่นสติ๊กเกอร์ RITHAMA
โปรโมชั่น 3M ชวนใช้ ของดีราคาโดน
โปรโมชั่น Backlit Film คุณภาพสูง Johns จากเกาหลี
Menu MBA
เครื่องตัดฟิล์มกรองแสงรถยนต์
Heat Transfer Machine
เครื่องพิมพ์Sublimation
ผลงานที่พิมพ์ด้วยเครื่องพิมพ์โรแลนด์
ราคาเครื่องพิมพ์ และเครื่องตัดสติ๊กเกอร์
Roland Application
HP Designjet Printer
สินค้าที่เกี่ยวกับการพิมพ์อิงค์เจ็ท
Roland TV (VS-640)
วิธีการทำฉลากสินค้าแบบต้นทุนต่ำ
Epson Label Printer
ColorWorks C3510
ColorWorks C7510
Epson ColorWorks C830 Inkjet Color Label Printer
ColorWorks C3400
ColorWorks C3400-LT
ColorWorks C3500
ColorWorks C7500
ColorWorks C7500G
ColorWorks C7500GE
ColorWorks C831
SurePress L-4033AW
SurePress L-6034
SurePress L-4533A/L4533AW
ติดตั้งเครื่อง Epson SurePress L4533AW
เครื่องพิมพ์ฉลาก Graphtec
LABELROBO LCX1000
Download
คู่มือการใช้งาน SV-12/15
คู่มือการใช้งาน SX-12/15
คู่มือการใช้งาน CX-24
คู่มือการใช้งาน GX-24
Driver SX-12 / 15 for XP
Driver SV-12 / 15 for XP
Driver CAMM1 / CX-24 for XP
Driver GX-24 for XP
โปรแกรม Dr.Stika
Driver Liyu, Suda, Foison
โปรแกรม CutStudio
Driver GX For Win7
Driver SX / SV For Win7
Driver Mimaki CG-60SR / SL
Driver SV-12 / 15 for win7 64bit
Driver Camm1 for win7 64bit
การตั้งค่าเครื่องตัดใช้กับเครื่อง MAC
LoGo ศูนย์พิมพ์อิงค์เจทคุณภาพ Roland
STIKA SV-12/15
CAMM-1 GX-24
CAMM-1 Pro GX-300/400/500
คุณสมบัติเครื่องตัดสติ๊กเกอร์
FOISON
การกำหนดเส้น Contour Cut ด้วยโปรแกรม Illustrator
GreenGuard
Open House MBA
3M สติกเกอร์
3M สติกเกอร์
หน้ากากไส้กรองเดี่ยว
หน้ากากไส้กรองคู่
3M Scotchcal 50 ฟิล์มทึบแสง รุ่น 50
ติดตั้งเครื่องให้กับลูกค้า Roland
ปี2014 - งานติดตั้งเครื่องให้ลูกค้าROLAND
ปี2016 - งานติดตั้งเครื่องให้ลูกค้าROLAND
ปี2017 - งานติดตั้งเครื่องให้ลูกค้าROLAND
ปี2014 - งานแสดงโชว์สินค้า
งานแสดงโชว์สินค้า
ปี2015 - งานแสดงโชว์สินค้า
ปี2016 - งานแสดงโชว์สินค้า
ปี2017 - งานแสดงโชว์สินค้า
ปี2018 - งานแสดงโชว์สินค้า
ปี2021 - งานแสดงโชว์สินค้า
RolandRoadShow
RolandRoadShow2017
RolandRoadShow2016
ศูนย์บริการเครื่องพิมพ์ และ เครื่องตัดสติกเกอร์ Roland
Home
เครื่องพิมพ์ Roland
เครื่องPrint&Cut
เครื่องตัดสติกเกอร์
เครื่องพิมพ์ UV
เครื่องแกะสลักโลหะ
ติดต่อเรา
Webboard
หน้ารวมกระทู้
>
วันเข้าพรรษา 2567 ประวัติ ความสำคัญ กิจกรรมในวันเข้าพรรษา
Tweet ทวีต
วันเข้าพรรษา 2567 ประวัติ ความสำคัญ กิจกรรมในวันเข้าพรรษา
วันเข้าพรรษา 2567 ประวัติ ความสำคัญ กิจกรรมในวันเข้าพรรษา
วันเข้าพรรษา 2567 ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 21 กรกฎาคม 2567 แรม 1 ค่ำ เดือนแปด
วันเข้าพรรษา เป็นวันสำคัญในพุทธศาสนาวันหนึ่งที่พระสงฆ์เถรวาทจะอธิษฐานว่าจะพักประจำอยู่ ณ ที่ใดที่หนึ่งตลอดระยะเวลาฤดูฝนที่มีกำหนดระยะเวลา 3 เดือนตามที่พระวินัยบัญญัติไว้ โดยไม่ไปค้างแรมที่อื่น คือตั้งแต่ แรม 1 ค่ำ เดือน 8 ถึงวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 11 วันเข้าพรรษา พ.ศ. 2566 ตรงกับ วันอาทิตย์ที่ 21 กรกฎาคม 2567 / วันพุธ แรม 1 ค่ำ เดือนแปดหลัง
การเข้าพรรษาเป็นช่วงเวลาที่พระสงฆ์จะมีโอกาสศึกษาพระธรรมวินัยและปฏิบัติธรรมอย่างเต็มที่ โดยพระสงฆ์จะใช้เวลาส่วนใหญ่ในการสวดมนต์ เจริญสมาธิ และศึกษาพระปริยัติธรรม นอกจากนี้ยังมีโอกาสที่จะได้เผยแพร่ธรรมะแก่ประชาชนอีกด้วย
โดยวันเข้าพรรษาเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาที่ต่อเนื่องมาจาก วันอาสาฬหบูชา (วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8) ซึ่งพุทธศาสนิกชนชาวไทยทั้งพระมหากษัตริย์และคนทั่วไปได้สืบทอดประเพณีปฏิบัติการทำบุญในวันเข้าพรรษามาช้านานแล้วตั้งแต่สมัยสุโขทัย
ประวัติวันเข้าพรรษา
วันเข้าพรรษา เมื่อครั้งพระพุทธเจ้าประทับอยู่ที่วัดเวฬุวัน เมืองราชคฤห์ พอถึงฤดูฝนพระภิกษุส่วนใหญ่ก็อยู่ประจำที่เช่นเดียวกับนักบวชนอกพุทธศาสนาที่มักถือเป็นประเพณีปฏิบัติอยู่จำพรรษามาตั้งแต่ก่อนพุทธกาล ปรากฏว่ามีพระภิกษุกลุ่มฉัพพัคคีย์พาบริวารจำนวน 1,500 รูปเที่ยวจาริกไปตามที่ต่างๆ เนื่องจากตอนต้นพุทธกาลยังไม่มีพุทธานุญาตให้ภิกษุอยู่จำพรรษา ทำให้ชาวบ้านพากันติเตียนถึงการจาริกของท่านเพราะไปเหยียบข้าวกล้าในนาเสียหาย เมื่อรู้ไปถึงพระพุทธเจ้า จึงทรงรับสั่งให้ประชุมสงฆ์ ตรัสถามจนได้ความจริง แล้วทรงบัญญัติให้พระภิกษุอยู่จำพรรษา เป็นเวลา 3 เดือนในฤดูฝน
ฉะนั้น สาเหตุที่พระพุทธเจ้าทรงอนุญาตการจำพรรษาอยู่ ณ สถานที่ใดสถานที่หนึ่งตลอด 3 เดือนแก่พระสงฆ์นั้น มีเหตุผลเพื่อให้พระสงฆ์ได้หยุดพักการจาริกเพื่อเผยแพร่ศาสนาไปตามสถานที่ต่าง ๆ ซึ่งจะเป็นไปด้วยความยากลำบากในช่วงฤดูฝน เพื่อป้องกันความเสียหายจากการอาจเดินเหยียบย่ำธัญพืชของชาวบ้านที่ปลูกลงแปลงในฤดูฝน และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ช่วงเวลาจำพรรษาตลอด 3 เดือนนั้น เป็นช่วงเวลาและโอกาสสำคัญในรอบปีที่พระสงฆ์จะได้มาอยู่จำพรรษารวมกันภายในอาวาสหรือสถานที่ใดสถานที่หนึ่ง เพื่อศึกษาพระธรรมวินัยจากพระสงฆ์ที่ทรงความรู้ ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์และสร้างความสามัคคีในหมู่คณะสงฆ์ด้วย
ในวันเข้าพรรษาและช่วงฤดูพรรษากาลตลอดทั้ง 3 เดือน พุทธศาสนิกชนชาวไทยถือเป็นโอกาสอันดีที่จะบำเพ็ญกุศลด้วยการเข้าวัดทำบุญใส่บาตร ฟังพระธรรมเทศนา ซึ่งสิ่งที่พิเศษจากวันสำคัญอื่น ๆ คือ มีการถวายหลอดไฟหรือเทียนเข้าพรรษา และผ้าอาบน้ำฝน (ผ้าวัสสิกสาฏก) แก่พระสงฆ์ด้วย เพื่อสำหรับให้พระสงฆ์ได้ใช้สำหรับการอยู่จำพรรษา โดยในอดีต ชายไทยที่เป็นพุทธศาสนิกชนเมื่ออายุครบบวช (20 ปี) จะนิยมถือบรรพชาอุปสมบทเป็นพระสงฆ์เพื่ออยู่จำพรรษาตลอดฤดูพรรษากาลทั้ง 3 เดือน โดยพุทธศาสนิกชนไทยจะเรียกการบรรพชาอุปสมบทเพื่อจำพรรษาตลอดพรรษากาลว่า "บวชเอาพรรษา"
อย่างไรก็ดี หนังสือ “วันเข้าพรรษา” ที่จัดพิมพ์โดย สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม ได้กล่าวไว้ว่า ในกรณีที่มีกิจจำเป็น พระพุทธเจ้าก็ได้ประทานอนุญาตให้พระภิกษุไปค้างคืนที่อื่นได้คราวละไม่เกิน 7 วัน โดยไม่ถือว่าอาบัติ เรียกว่าเป็นเหตุพิเศษหรือ “สัตตาหกรณียกิจ” ซึ่งมีอยู่ 4 ประการคือ
เพื่อนสหธรรมิก (ผู้มีธรรมร่วมกัน) ทั้ง ๕ คือ ภิกษุ ภิกษุณี สิกขามานา(นางผู้กำลังศึกษา /สามเณรีผู้มีอายุ ๑๘ปีและอีก ๒ ปีจะครบบวชเป็นภิกษุณี) สามเณร สามเณรี หรือบิดามารดาป่วยไปเพื่อพยาบาลได้
ไปเพื่อยับยั้งเพื่อนสหธรรมิกที่อยากสึก มิให้สึกได้
ไปเพื่อกิจของสงฆ์ เช่น หาอุปกรณ์ซ่อมกุฏิ วิหารที่ชำรุดทรุดโทรมได้
ไปเพื่อฉลองศรัทธาทายกที่เขาส่งตัวแทนมานิมนต์ไปร่วมบำเพ็ญบุญได้
นอกจากนั้น วันเข้าพรรษา ยังยกเว้นสำหรับพระภิกษุที่ประสบเหตุดังต่อไปนี้ แม้จะเป็นระหว่างพรรษาก็สามารถหลีกไปที่อื่นได้โดยไม่อาบัติ แต่ขาดพรรษา คือ ถูกสัตว์ร้ายรบกวนหรือเบียดเบียน ถูกงูรบกวนหรือขบกัด ถูกโจรเบียดเบียนหรือปล้น ทุบตี ถูกปีศาจรบกวน เข้าสิงหรือฆ่า ชาวบ้านที่ให้ความอุปถัมภ์ไม่สามารถอุปถัมภ์ได้ต่อไปเพราะย้ายถิ่น ฐานไปที่อื่น หรือเสนาสนะของภิกษุถูกไฟไหม้น้ำท่วม หรือมีผู้จะพยายามทำร้าย พระภิกษุสามารถหลีกไปอยู่ที่อื่นระหว่างพรรษาได้
วันเข้าพรรษา นอกจากจะเป็นช่วงที่พระภิกษุอยู่ประจำที่ดังกล่าวแล้ว ยังก่อให้เกิดประเพณีสำคัญขึ้นอีก 2 ประเพณีคือ ประเพณีถวายผ้าอาบน้ำฝน และ ประเพณีแห่เทียนพรรษา
ประเพณีสำคัญขึ้นในวันเข้าพรรษามี 2 ประเพณีคือ
ประเพณีถวายผ้าอาบน้ำฝน
เกิดขึ้นโดยมีเรื่องเล่าว่า ในสมัยพุทธกาล ครั้งหนึ่งนางวิสาขา มหาอุบาสิกาต้องการจะนิมนต์พระภิกษุไปฉันภัตตาหารที่บ้าน
จึงให้หญิงรับใช้ไปพระวิหารเชตวันเพื่อนิมนต์พระ ปรากฏว่านางไปเห็นพระภิกษุเปลือยกายอาบน้ำฝนอยู่ ก็กลับมารายงานด้วยความเข้าใจผิดว่าไม่พบพระ เห็นแต่พวกชีเปลือย นางวิสาขาก็รู้ด้วยปัญญาว่าคงเป็นพระอาบน้ำฝนอยู่ ดังนั้น นางจึงได้ทูลขอพรจากพระพุทธเจ้า ขอถวายผ้าอาบน้ำฝนแด่พระภิกษุและภิกษุณีเป็นประจำแต่นั้นมา จึงเกิดเป็นประเพณีที่ชาวพุทธปฏิบัติสืบต่อมาจนทุกวันนี้ และกล่าวกันว่า ผู้ที่ถวายผ้าอาบน้ำฝนจะได้รับอานิสงส์เหมือนการถวายผ้าอื่นๆตามนัยที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ คือ ทำให้เป็นผู้มีผิวพรรณผ่องใส สวยงาม ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ มีความสะอาดผ่องใสทั้งกายและใจ
ส่วนประเพณีแห่เทียนพรรษา
เกิดจากความจำเป็นที่ว่าสมัยก่อนยังไม่มีไฟฟ้าใช้เช่นปัจจุบัน ดังนั้น เมื่อพระภิกษุอยู่รวมกันมากๆเพื่อปฏิบัติกิจวัตร เช่น การสวดมนต์ตอนเช้ามืดและพลบค่ำ การศึกษาพระปริยัติธรรม การบูชาพระรัตนตรัย ฯลฯ จำเป็นต้องใช้แสงสว่างจากเทียน
ดังนั้น ชาวบ้านจึงได้ร่วมกันนำเทียนมาถวาย ซึ่งช่วงต้นก็คงจะถวายเป็นเทียนเล็กๆธรรมดา ครั้นต่อมาก็ได้มีการมัดเทียนเล็กๆมารวมกันเป็นต้น คล้ายต้นกล้วยหรือลำไม้ไผ่ แล้วติดกับฐาน ที่เรียกกันว่า ต้นเทียน หรือ ต้นเทียนพรรษา และก็วิวัฒนาการมาเรื่อยๆจนเป็นเทียนพรรษาอย่างที่เราเห็นกันอยู่ในปัจจุบัน
กล่าวกันว่า เทียนพรรษา เริ่มมาจากผู้ที่นับถือศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ซึ่งนับถือวัว ที่เป็นพาหนะของพระอิศวร เมื่อวัวตาย ก็จะเอาไขจากวัวมาทำเป็นน้ำมันเพื่อจุดบูชาพระเป็นเจ้าที่ตนเคารพ แต่ชาวพุทธจะทำเทียนเพื่อบูชาพระรัตนตรัย โดยเอามาจากรังผึ้งร้าง ต้มเอาขี้ผึ้งมาฟั่นเป็นเทียนเล็กๆเพื่อจุดบูชาพระ และได้ยึดเป็นประเพณีที่จะนำเทียนไปถวายพระภิกษุในช่วงเข้าพรรรษา เพื่อปรารถนาให้ตนเองมีสติปัญญาเฉลียวฉลาดดุจดังแสงสว่างของดวงเทียน
อนึ่ง การที่พระภิกษุจำนวนมากอยู่จำพรรษาถึง 3 เดือนนี้ นับเป็นโอกาสเหมาะที่จะได้ศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัย และประพฤติปฏิบัติธรรมกับพระเถระที่เป็นอุปัชาย์อาจารย์อย่างเต็มที่ ในขณะเดียวกันก็เป็นโอกาสให้พุทธศาสนิกชนได้ไปบำเพ็ญกุศล เช่น ทำบุญตักบาตร รักษาศีล สวดมนต์ ฟังธรรม เจริญภาวนา ตลอดจนไปศึกษาหาความรู้กับพระภิกษุ ซึ่งต่อมาได้เกิดเป็นประเพณีนิยมที่จะให้ลูกหลานไปบวชเรียนในช่วงเข้าพรรษา เพื่อให้ได้ศึกษาพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ และได้ฝึกฝนตนเอง
Advertisement
สำหรับปัจจุบัน ได้มีพุทธศาสนิกชนจำนวนไม่น้อยที่ถือเอาวันเข้าพรรษาเป็นวันสำรวจพฤติกรรมของตนที่ผ่านมา และตั้งจิตอธิษฐานที่จะลด ละ เลิกสิ่งที่ไม่ดีต่างๆ เช่น เลิกเหล้า อดบุหรี่ การพูดจาหยาบคาย ฯลฯ ในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา ๓ เดือน โดยใช้วันนี้เป็นวันเริ่มต้นในการกระทำดี ซึ่งก็นับว่าเป็นระยะเวลาที่ยาวนานเพียงพอสำหรับความตั้งใจสร้างเสริมคุณลักษณะที่พึงประสงค์ให้เกิดขึ้น อันมีอานิสงส์ทำให้ตนเอง ครอบครัวและสังคมเกิดความสุข สงบร่มเย็น
ประเภทของการเข้าพรรษาของพระสงฆ์ แบ่งเป็น 2 ประเภท
ปุริมพรรษา คือ การเข้าพรรษาแรก การเข้าพรรษาแรก เริ่มตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 (สำหรับปีอธิกมาส คือ มีเดือน 8 สองหน จะเริ่มในวันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 หลัง) จนถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 หลังจากออกพรรษาแล้ว พระที่อยู่จำพรรษาครบ 3 เดือน ก็มีสิทธิที่จะรับกฐินซึ่งมีช่วงเวลาเพียงหนึ่งเดือน นับตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ถึงขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12
ปัจฉิมพรรษา คือ การเข้าพรรษาหลัง การเข้าพรรษาหลัง ใช้ในกรณีที่พระภิกษุต้องเดินทางไกลหรือมีเหตุสุดวิสัย ทำให้กลับมาเข้าพรรษาแรกในวันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 ไม่ทัน ต้องรอไปเข้าพรรษาหลัง คือวันแรม 1 ค่ำ เดือน 9 แล้วจะไปออกพรรษาในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ซึ่งเป็นวันหมดเขตทอดกฐินพอดี ดังนั้นพระภิกษุที่เข้าปัจฉิมพรรษาจึงไม่มีโอกาสได้รับกฐิน แต่ก็ได้พรรษาเช่นเดียวกับพระที่เข้าปุริมพรรษาเหมือนกัน
ในประเทศไทย พระภิกษุส่วนใหญ่จะจำพรรษาในช่วงปุริมพรรษาหรือพรรษาแรกมากกว่าปัจฉิมพรรษาหรือพรรษาหลัง ยกเว้นพระภิกษุที่อาพาธ(ป่วย)หรือมีกิจจำเป็นจึงจะอธิษฐานจำพรรษาในช่วงปัจฉิมพรรษา ส่วนการที่มีเดือนแปดสองหน หรือปีอธิกมาส ก็เพราะเป็นการนับทางจันทรคติ(วันขึ้น วันแรม)ซึ่งแต่ละปีจะมีจำนวนวันน้อยกว่าการนับทางสุริยคติ(การนับวันตามแบบปัจจุบัน) ทำให้ต้องเพิ่มเดือนในบางปีเพื่อชดเชยจำนวนวันที่หายไป มิให้ปีทางจันทรคติและสุริยคติคลาดเคลื่อนกันไปมากความเป็นมาของวันเข้าพรรษาเกิดขึ้น
ความสำคัญและประโยชน์ของการเข้าพรรษา
ช่วงเข้าพรรษานั้นเป็นช่วงเวลาที่ชาวบ้านประกอบอาชีพทำไร่นา ดังนั้นการกำหนดให้ภิกษุสงฆ์หยุดการเดินทางจาริกไปในสถานที่ต่างๆ ก็จะช่วยให้พันธุ์พืชของต้นกล้า หรือสัตว์เล็กสัตว์น้อย ไม่ได้รับความเสียหายจากการเดินธุดงค์
หลังจากเดินทางจาริกไปเผยแผ่พระพุทธศาสนามาเป็นเวลา 8 - 9 เดือน ช่วงเข้าพรรษาเป็นช่วงที่ให้พระภิกษุสงฆ์ได้หยุดพักผ่อน
เป็นเวลาที่พระภิกษุสงฆ์จะได้ประพฤติปฏิบัติธรรมสำหรับตนเอง และศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัยตลอดจนเตรียมการสั่งสอนให้กับประชาชนเมื่อถึงวันออกพรรษา
เพื่อจะได้มีโอกาสอบรมสั่งสอนและบวชให้กับกุลบุตรผู้มีอายุครบบวช อันเป็นกำลังสำคัญในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาต่อไป
เพื่อให้พุทธศาสนิกชน ได้มีโอกาสบำเพ็ญกุศลเป็นการพิเศษ เช่น การทำบุญตักบาตร หล่อเทียนพรรษา ถวายผ้าอาบน้ำฝน รักษาศีล เจริญภาวนา ถวายจตุปัจจัยไทยธรรม งดเว้นอบายมุข และมีโอกาสได้ฟังพระธรรมเทศนาตลอดเวลาเข้าพรรษา
อานิสงส์แห่งการจำพรรษา
เมื่อพระภิกษุอยู่จำพรรษาครบ 3 เดือนได้ปวารณาแล้ว ย่อมจะได้รับอานิสงส์แห่งการจำพรรษา 5 อย่าง ตลอด 1 เดือนนับแต่วันออกพรรษาเป็นต้นไป คือ
เที่ยวจาริกไปโดยไม่ต้องบอกลา ตามสิกขาบทที่ ๖ แห่งอเจลกวรรค ปาจิตตีย์กัณฑ์
เที่ยวจาริกไปโดยไม่ต้องถือไตรจีวรไปครบสำรับ
ฉันคณะโภชน์และปรัมปรโภชน์ได้
เก็บอติเรกจีวรได้ตามปรารถนา
จีวรอันเกิดขึ้นในที่นั้นเป็นของพวกเธอ
และยังได้โอกาสเพื่อที่จะกราลกฐิน และได้รับอานิสงส์พรรษาทั้ง 5 ขึ้นนั้นเพิ่มออกไปอีก 4 เดือน ในฤดูหนาว คือตั้งแต่แรม 1 ค่ำ เดือน 12 ไปจนถึงขึ้น 15 ค่ำ เดือน 4 อีกด้วย
กิจกรรมในวันเข้าพรรษาที่พุทธศาสนิกชนนิยมทำกัน ได้แก่
ตักบาตร
ถวายเทียนพรรษา
ถวายผ้าอาบน้ำฝน
ถวายจตุปัจจัยไทยธรรม
ฟังธรรมเทศนา
เวียนเทียนรอบพระอุโบสถ
รักษาศีล 5
งดเว้นอบายมุข
เจริญภาวนา
สำหรับพุทธศาสนิกชน ในวันเข้าพรรษานิยมทำบุญตักบาตร ถวายเทียนพรรษา ผ้าอาบน้ำฝน และจตุปัจจัยไทยธรรม ฟังธรรมเทศนา และเวียนเทียนรอบพระอุโบสถ วันเข้าพรรษาเป็นช่วงเวลาแห่งการประพฤติปฏิบัติธรรมอันดีงามของชาวพุทธ เป็นวันแห่งการชำระจิต ชำระใจ และอ้อมกอดพระพุทธศาสนาให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
ข้อยกเว้นการจำพรรษาของพระสงฆ์
แม้การเข้าพรรษานี้ถือเป็นข้อปฏิบัติสำหรับพระภิกษุโดยตรง ที่จะละเว้นไม่ได้ ไม่ว่ากรณีใด ๆ ก็ตาม แต่ว่าในการจำพรรษาของพระสงฆ์ในระหว่างพรรษานั้น อาจมีกรณีจำเป็นบางอย่าง ทำให้พระภิกษุผู้จำพรรษาต้องออกจากสถานที่จำพรรษาเพื่อไปค้างที่อื่น พระพุทธองค์ก็ทรงอนุญาตให้ทำได้โดยไม่ถือว่าเป็นการขาดพรรษาโดยมีเหตุจำเป็นเฉพาะกรณี ๆ ไป ตามที่ทรงระบุไว้ในพระไตรปิฎก ซึ่งส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับการพระศาสนาหรือการอุปัฏฐานบิดามารดา แต่ทั้งนี้ก็จะต้องกลับมาภายในระยะเวลาไม่เกิน 7 วัน การออกนอกที่จำพรรษาล่วงวันเช่นนี้เรียกว่า "สัตตาหกรณียะ" ซึ่งเหตุที่ทรงระบุว่าจะออกจากที่จำพรรษาไปได้ชั่วคราวนั้นเช่น
การไปรักษาพยาบาล หาอาหารให้ภิกษุหรือบิดามารดาที่เจ็บป่วย เป็นต้น กรณีนี้ทำได้กับสหธรรมิก 5 และมารดาบิดา
การไประงับภิกษุสามเณรที่อยากจะสึกมิให้สึกได้ กรณีนี้ทำได้กับสหธรรมิก 5
การไปเพื่อกิจธุระของคณะสงฆ์ เช่น การไปหาอุปกรณ์มาซ่อมกุฏิที่ชำรุด หรือ การไปทำสังฆกรรม เช่น สวดญัตติจตุตถกรรมวาจาให้พระผู้ต้องการอยู่ปริวาส เป็นต้น
หากทายกนิมนต์ไปทำบุญ ก็ไปให้ทายกได้ให้ทาน รับศีล ฟังเทสนาธรรมได้ กรณีนี้หากโยมไม่มานิมนต์ ก็จะไปค้างไม่ได้.
ซึ่งหากพระสงฆ์ออกจากอาวาสแม้โดยสัตตาหกรณียะล่วงกำหนด 7 วันตามพระวินัย ก็ถือว่า ขาดพรรษา และเป็นอาบัติทุกกฎเพราะรับคำ (รับคำอธิษฐานเข้าพรรษาแต่ทำไม่ได้)
ในกรณีที่พระสงฆ์สัตตาหกรณียะและกลับมาตามกำหนดแล้ว ไม่ถือว่าเป็นอาบัติ และสามารถกลับมาจำพรรษาต่อเนื่องไปได้ และหากมีเหตุจำเป็นที่จะต้องออกจากที่จำพรรษาไปได้ตามวินัยอีก ก็สามารถทำได้โดยสัตตาหกรณียะ แต่ต้องกลับมาภายในเจ็ดวัน เพื่อไม่ให้พรรษาขาดและไม่เป็นอาบัติทุกกฎดังกล่าวแล้ว
ผู้ตั้งกระทู้
ขั้นเทพ (cat824406-at-gmail-dot-com)
:: วันที่ลงประกาศ 2024-01-25 18:55:08
แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น
*
ผู้แสดงความคิดเห็น
*
อีเมล
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล